welco

Welcome To Story >>>หลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์

ปลา

>

แนะนำผู้จัดทำ

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2555

ความซื่อสัตย์



“ ความซื่อสัตย์ ( Integrity ) ” ในการทำงาน .... สำคัญไฉน
          ก่อนอื่นต้องถามตัวคุณเองก่อนว่า คุณมีความซื่อสัตย์ ( Integrity) ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน และแน่นอนว่าคงจะไม่มีใครตอบว่าตนเองไม่มีความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์จึงเป็นคุณลักษณะที่สำคัญและเป็นที่ต้องการในทุกองค์การ ซึ่งความซื่อสัตย์นอกจากจะหมายถึงการ รักษาความลับ ผลประโยชน์ และทรัพย์สินต่าง ๆ ของบริษัทแล้ว ความซื่อสัตย์ยังหมายรวมไปถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและไม่บิดเบือนจากความเป็นจริง และการปฏิบัติตามระเบียบหรือกฎของบริษัท และยังพบว่าอีกว่ามีหลายองค์การได้กำหนดความซื่อสัตย์เป็นวัฒนธรรมองค์การ (Corporate Culture) หรือคุณค่าร่วม ( Core Value) ที่เกี่ยวข้องกับความคิดความเชื่อที่อยากให้พนักงานทุกคนปฏิบัติ
          แล้วทำไมคุณจะต้องมีความซื่อสัตย์ในการทำงาน ..... ความซื่อสัตย์ในการทำงานจะส่งผลโดยตรงต่อคุณลักษณะส่วนบุคคล ( Personal Attribute) ของตัวคุณเองที่คนอื่นมองหรือรับรู้ในตัวคุณว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์หรือไม่ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลต่อเนื่องไปยังหน่วยงานและองค์การของคุณเอง ทั้งนี้คุณลักษณะของความซื่อสัตย์จะมีความสำคัญและส่งผลต่อตัวคุณและต่อหน่วยงานหรือองค์การของคุณ

หลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์

การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
1.รับข้อมูล (input)
          เป็นการนำข้อมูลหรือคำสั่งเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ โดยผ่านอุปกรณ์รับข้อมูลต่างๆ
เช่น การพิมพ์ข้อความเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้แป้นพิมพ์
2.ประมวลผลข้อมูล (process)
           เป็นการนำข้อมูลมาประมวลผลตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมเพื่อให้ได้      ผลลัพธ์หรือสารสนเทศ ซึ่งอุปกรณ์สำหรับประมวลผลที่สำคัญ คือ หน่วยประมวลผลกลาง
3.จัดเก็บข้อมูล (storage)
            เป็นการจัดเก็บข้อมูลชั่วคราวในขณะที่มีการประมวลผลแรม รวมถึงจัดเก็บข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลลงในอุปกรณ์เก็บข้อมูล
4.แสดงผลข้อมูล (output) 
             เป็นการนำผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลมาแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบที่มนุษย์เข้าใจ

องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
     จากหลักการทำงานขั้นพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้มีการพัฒนาองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ขึ้นมา  องค์ประกอบดังกล่าว  คือ อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รองรับการทำงานแต่ละขั้นตอน  ดังนั้นคอมพิวเตอร์จึงมีอุปกรณืที่สำคัญหลายอย่าง  ซึ่งทำงานสัมพันธ์กันและมีกระบวนการทำงานเป็นขั้นตอนตามที่โปรแกรมกำหนดไว้  ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ประเภทใด ยี่ห้อใด รุ่นใด ต่างก็มีหลักการทำงานในลักษณะเดียวกัน  คอมพิวเตอร์จะทำงานได้อย่างเป็นระบบนั้นจะต้องอาศัยองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ ดังนี้
     1.หน่วยรับเข้า (input unit) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับข้อมูลจากอุปกรณ์ต่างๆ ส่งเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปทำตามคำสั่งที่ต้องการ อุปกรณ์หน่วยรับเข้าที่มีในปัจจุบัน เช่น เมาส์ แป้นพิมพ์ เครื่องสแกนเนอร์ อุปกรณ์จับภาพ อุปกรณ์รับเสียง เป็นต้น
    2.หน่วยประมวลผลกลาง (central processing unit : CPU) ซีพียูเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์ ควบคุมการทำงานและประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์ต่างๆให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
   3.หน่วยความจำหลัก (main memory) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้จัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมคำสั่งต่างๆในขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์เปิดใช้งานอยู่เท่านั้น หากปิดเครื่องคอมพิวเตอร์จะทำให้ข้อมูลนั้นหายไป หน่วยความจำหลักทำงานควบคู่ไปกับหน่วยประมวลผลกลาง ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น แบ่งออกได้เป้น2ประเภท คือ หน่วยความจำแรม และหน่วยความจำรอม
  4.หน่วยความจำรอง (secondary storage) ป็นอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์อย่างถาวร ผู้ที่ใช้สามารถเรียกข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ในภายหลังได้ แม้จะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ข้อมูล แต่โปรแกรมที่เก็บไว้จะไม่สูญหาย อุปกรณ์หน่วยความจำรองที่มีในปัจจุบัน เช่น ออปดิคัสดิสก์ เป็นต้น
   5.หน่วยส่งออก (output unit) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลที่ผ็ใช้สามารถเข้าใจได้ง่าย เป็นทั้งภาพ เสียง สี แสง ตัวอักษร รูปภาพ อุปกรณ์หน่วยแสดงผลที่มีในปัจจุบัน เช่น จอภาพ ลำโพง เครื่องพิมพ์ เป็นต้น
    

หลักการเลือกคอมพิวเตอร์
             ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการทำงานหลายองค์กร ทั้งการพิมพ์เอกสาร จัดเก็บข้อมูล นำเสนอผลงาน รวมทั้งการออกแบบต่างๆ ซึ่งลักษณะของงานจะมีความแตกต่างกันไป เพื่อให้ได้ผลงานที่มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้และคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่จ่ายไป
การสำรวจระดับการใช้งานคอมพิวเตอร์
               สำหรับการสำรวจระดับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม จะทำให้ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีคุณลักษณะตรงตามความต้องการเหมาะสมกับงานมากที่สุด
การแบ่งระดับการใช้งานคอมพิวเตอร์อาจแบ่งได้หลายประเภทแต่โดยส่วนใหญ่มักจะแบ่งตามประเภทของผู้ใช้งาน ซึ่งแบ่งได้ดังนี้ 
 1.ระดับผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้มือใหม่
                 ผู้ใช้ทั่วไปเป็นผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์สำหรับงานด้านเอกสาร รายงาน งานในสำนักงานต่างๆและเล่นอินเทอร์เน็ตผ่านโปรแกรมสำเร็จรูป เช่น Microsoft Office เพื่อจัดทำเอกสาร รายงานเพื่อนำเสนอ
2.ระดับผู้ใช้งานกราฟิก
                  งานด้านกราฟิก ตัวอย่างเช่น งานด้านการออกแบบสื่อส่งพิมพ์และสื่อโฆษณาจะต้องใช้ฮาร์แวร์และโปรแกรมต่างๆที่มีคุณลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์สูงพอสมควร
3.ระดับผู้ใช้งานด้านกราฟิกขั้นสูง
                   ซึ่งต้องแสดงผลในรูปสามมิติ หรือ 3D animationผู้ใช้ระดับนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในการคำนวณระดับสูง เช่น การสร้างภาพในรูปสามมิติโดยใช้โปรแกรม Auto CAD,3D Studio Max และ Maya เป็นต้น

4.ระดับผู้เล่นเกม
                    ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือย ที่จะต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถรับรองเกมที่มีภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหวและ ภาพสามมิติ แต่ปัจจุบันอุปกรณ์ต่างๆ ไม่สูงมากจนเกินไป ดังนั้นการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้เอง จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ แต่สำหรับเด็กและเยาวชนซึ่งอยู่ในวัยเรียน และยังไม่มีรายได้เป็นของตนเอง ไม่ควรเล่นเกมมากจนกลายเป็นคนติดเกม เพราะ นอกจากจะทำให้เสียการเรียนแล้วยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง อีกด้วย